ผมต้องปรามไว้หน่อยนึงครับว่าการเข้าตลาดโดยไม่พิจารณาให้ีดีและใจร้อนจะทำให้ติดหุ้นเอาง่ายๆ
แต่ผมพยายามจะบอกมาตลอดถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างรายได้ของธุรกิจในประเทศที่เกิดจากการที่เราเปิดประชาคมอาเซียน บริษัทที่มีศักยภาพในระดับภูมิภาค ที่สามารถและมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้าน มีเส้นสาย ในการเข้าทำธุรกิจ จะเป็นธุรกิจที่จะเติบโตได้ในช่วงห้าถึงสิบปีข้างหน้า ลองนึกภาพตามผมดูเสียหน่อย มันเกิดการลงทุนมหาศาลให้กับการก่อสร้างด้านปัจจัยพื้นฐาน ถนน ท่าเรือ เมือง เมื่อมีเม็ดเงินที่เข้าไปลงทุน เงินบางส่วนก็ไหลเข้าสู่มือผู้บริโภคเมื่อผู้บริโภคมีรายได้ที่มากขึ้น ความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น กล้ากินกล้าใช้มากขึ้น เงินมันก็ไหลไป ไหลไป มันเป็นการมองแบบง่ายๆ ในความเป็นจริงถึงผมจะไม่เคยเห็น แต่ผมก็บอกได้ว่ามันอาจจะไม่ราบรื่นนัก แต่มันก็มีวิถีของมัน
แปลว่าโดยรวมภูมิภาคเราจะการหมุนเวียนของเงินที่สูงขึ้น การที่ตัดเส้นทางการขนส่งจากทวายไปสู่อีกฝากของทะเลอย่างลาวและเขมรทำให้เกิดงานขึ้นมากมายทั้งในช่วงเริ่มและช่วงพัฒนา
มันหมายความว่าเงินเราจะมีเท่าเดิม แต่เมื่อเปรียบเทียบกับรอบข้างเราอาจจะน้อยลง ถ้าเราได้แต่มองเฉยๆ ผมไม่ได้หมายถึงประเทศนะครับหมายถึงเราๆ เนี่ยแหละ ในส่วนของประเทศไทยเราเตรียมการและไปไกลกว่าที่ผมจะรู้จนนำมาขยายความได้ ผมกำลังหมายถึงเราๆ ที่ทั้งรู้และไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้แต่ปล่อยให้มันผ่านไป โอกาสแบบนี้มันมีมาไม่มากนักหรอกครับในช่วงชีวิตคนๆหนึ่งขึ้นอยู่กับเราจะเลือกคว้าและคว้าส่วนไหนไว้ และเมื่อไหร่
ผมได้คุยกับหัวหน้า แกเป็นสายวีไอหุ้น ที่่ชอบแกะรอยหุ้นเพื่อซื้อและถือเก็บและไว้ขายตอนมันราคาขึ้นหลายๆ เท่าตัว แกเล่าให้ฟังถึงแง่คิดหนึ่งของดร.นิเวศน์ ที่เปรียบหุ้นกับเธค ในความทรงจำของผม การมาถึงเธคในเวลาราว ทุ่มสองทุ่มเหมือนเรามาเข้างานตอนหกโมงเช้าหน่อยๆ ผู้คนเบาบาง แต่จะได้เก้าอี้และมุมดีๆ พอมาถึงช่วงราวสามทุ่มกว่าผู้คนเริ่มทยอยเข้าและจะเริ่มแน่น จนถึงช่วงราว 4 - 5 ทุ่มถึงจะเป็นช่วงที่คนแน่นสุดและเพลงจะเร้าใจที่สุดก็ช่วงราวๆ เที่ยงคืน หลังจากนั้นไม่นานผู้คนก็จะเริ่มทยอยกลับไปบ้าง และจะเหลือส่วนหนึ่งอยู่จนเธคเลิก ดร.นิเวศน์ให้แง่คิดการเปรียบเทียบตรงนี้เหมือนการเล่นหุ้นวีไอซักตัว คนที่มาก่อนถ้าเลือกร้านเป็น และเข้ามานั่งก่อนก็จะได้เปรียบ การเข้ามาในช่วงที่ตลาดพีกที่สุดจะเหลือเวลาให้เก็บเกี่ยวน้อยกว่าและคนสุดท้ายคือคนที่จ่่ายแพงสุด
เป็นเรื่องตลกอย่างหนึ่งที่ผมยังฝังใจ สมัยเรียนปตรี ผมมุเรียนในสายการเงินและบัญชี กะว่าจบมาจะอ่านงบบริษัทในตลาดเป็นหนังสืออ่านเล่นระหว่างกินข้าวเลย แต่ไหงกลายมาเป็น สายเก็งกำไรเสียได้ เดย์เทรดวะงั้น แต่เมื่อได้กลับมาสู่สายหุ้นอีกครั้งกับบริษัทใหม่ ผู้คนล้วนมีความเชี่ยวชายในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นให้ผมได้เก็บเกี่ยวความรู้เพิ่มขึ้น ผมจะบอกพวกเค้าเสมอว่าฝากตัวด้วยผมยังรู้น้อย (จริงๆ นะ) มาถึงตอนนี้ผมคงจะได้กลับมาสู่จุดที่ได้เริ่มเอาไว้