วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Gold Fight ,Model and Seminar

การที่ทองร่วงลงในคืนวันลอยกระทงที่ผ่านมาส่งผลให้มีเรื่องเกิดขึ้นสองเป็นอย่างน้อย เท่าที่ผมรู้อย่างแรกคือ ทองเสียทรงกลับมาตั้งลำกันใหม่ อย่างที่สองคือนักลงทุนที่เทรดทองหลายท่านท้อ
เป็นอีกครั้งที่ทิศทางราคาแสดงให้เราต้องจดจำถึงหลักการสำคัญที่ว่า "มีขึ้นก็มีลง ขึ้นแรงก็ลงแรงได้ "แม้จะเป็นการลงมาหลังจากเพิ่งจากเบรกแนวฟอร์มที่เข้าใจว่าแข็งก็ตามที ไม่อาจนอนใจ ขึ้นวันนี้ พรุ่งนี้เท อีกวันก็ขึ้นสวนกลับขึ้นมาก็ได้เช่นกัน ขึ้นวันละ 50 เหรียญได้ ก็มีคราวที่จะลงวันละ 50 เหรียญได้เช่นกัน ได้โปรดอย่าลืม เพราะถ้าลืมเดี๋ยวเราก็โดนย้ำอีก ย้ำแผลนะครับ
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ว่า ทุกคนอ่าน Wealthstation แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รอดปลอดภัยและเทรดไปในทางเดียวกัน แม้แต่กับคนใกล้ตัวผมเอง ยังไม่อาจเข้าใจได้ว่าผมสื่อไปด้วยความตั้งใจใด ว่ามองขึ้นหรือลง ผมงงงง ผมเข้าใจว่ามีอย่างน้อยสองสาเหตุ อย่างแรกคือต่างความเห็น อันนี้เข้าใจ หรือบางอย่างมาดลให้ไม่อาจตัดสินใจ อันนี้ก็เข้าใจอารมณ์อ่ะครับ ความกลัว เกิดกับทุกคนแม้แต่กับคนที่อยู่มานานๆ


การมีห้องสนทนา แบบคุยสดๆ ผมเชื่อว่ามีข้อดี แต่ก็มีข้อเสียอยู่
ทุกวันนี้ชาว "Gold Fight" เราแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น กัน สื่อสารกันมากขึ้นเข้าใจกันมากขึ้นครับ ผมเชื่อว่าดีขึ้นกว่าแค่อ่านคำแนะนำสองสามบรรทัด เพราะอย่างที่ผมบอกมาเสมอ การเทรดไม่ใช่แค่คิดว่าจะมองขึ้นหรือลง แต่มันมีรายละเอียดมากกว่านั้นการพูดคุยจึงให้ผลดีทั้งคุยกันเป็นกลุ่มและคุยแบบเดี่ยวๆ นะครับ
ส่วนข้อเสียผมอยากให้เข้าใจว่าการที่เราอยู่ท่ามกลางการพูดคุยด้วยความเห็นต่างๆ
นาๆ มันกระตุ้นให้เราคล้อยตามไปได้ ในทิศทางที่อาจไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเป็นไปได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามสามารถพูดคุยกันได้อัพเดตมากขึ้นครับ

มาถึงเรื่องหลักกันหน่อย ผมต้องกลับไปหาโมเดลเพื่อมาจับจังหวะอีกที หลังโมเดลเดิมมีอันต้องจบลงหลังหลุด 1735 ลงมานั่นเอง
ลองเทียบเคียงดูครับว่าเหมือนอันไหนก็จังหวะกันเอาครับ ส่วนตัวผมชอบอันที่ลงมาจาก 1226 มาทำโลว์ที่ 1040 แล้วค่อยกระดึบๆ ขึ้น
ลองเปรียบเทียบกันดูครับว่าชอบอันไหน แล้วผมจะมาขยายความให้อีกทีครับ เท่าที่ดูผมชอบอยู่อันสองอันที่มีลักษณะคล้ายๆ กับตอนนี้ครับ










สุดท้ายเกี่ยวกับเคจีไอ เป็นการประชาสัมพันธ์นะครับ
ในวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคมหรือพรุ่งนี้เราจะมีสัมมนาใหญ่ที่ตึกตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ข้างๆ ศูนย์ประชุมสิริกิต ด้วยหัวเรื่อง Navigator of December เป็นการมองภาพรวมของตลาดในเดือนธันวาคมจะบรรยายโดยนักวิเคราะห์ของทางเคจีไอ เพื่อบอกว่าในเดือนธันวาสภาวะตลาดน่าจะเป็นอย่างไร มีเรื่องราวอะไรที่เราต้องระวังที่จะมาส่งผลต่อตลาด และแนะนำหุ้นที่น่าสนใจ เท่าที่ผ่านมาผลงานของนักวิเคราะห์แม่นยำมาก ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องแม่นเพราะเราจะตามดูว่ามีเหตุการณ์อะไรรออยู่เป็นหลัก แต่ที่ผ่านมาต้องบอกว่ายอดเยี่ยมทีเดียว พอได้คำอธิบายของนักวิเคราะห์มาอธิบายเรื่องราวมันก็ทำให้เรากระจ่างและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ท่านที่สนใจก็เรียนเชิญเจอกันทีหน้างานได้เลยไม่จำเป็นต้องจอง
อาคารตลาดหลักทรัพย์ชั้นสามห้องศจ.สังเวียน อินทรวิชัย วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 9.00 - 12.00 น.ครับ



วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Wealthstation Guide 29.11.55


ราคาทองปรับตัวลงแรงในช่วงหัวค่ำวันก่อน ช่วงเดียวกับที่เรากำลังจะลอยกระทงพอดี
ความไม่มั่นใจในการผลักดันให้การแก้ปัญหา Fiscal Cliff เป็นเรื่องที่ถูกนำมาเป็นประเด็นในตอนนี้ครับ
การหลุด 1735 ลงมาทำให้ต้องมานับหนึ่งใหม่กับการฟอร์มตัวขึ้นไป เสียเวลามากขึ้นอีกหน่อยในทุกขณะ ลุ้น 1780 - 1800 ให้ทันสิ้นปียากขึ้นทุกทีครับ
แนวหนุน 1705 1713 
แนวต้าน 1724 1729 1735 
กราฟรายวันยังกดลงอยู่อย่างน้อยขอ Sto ตัดขึ้นจาก ณ จุดใดจุดหนึ่งก็ยังดีครับ ถึงค่อยมาคิดเรื่องซื้อ 
ช่วงนี้คงต้องเทรดตามกราฟระยะสั้น ไปก่อนครับ


วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Main Frame 28.11.55

อย่างที่แจ้งไว้และเรากำลังจะถูกย้ำเตือนอีกครั้ง คือการกลับตัวขึ้นครั้งนี้ต้องฝ่าแนวต้านอันมากมายไปตลอดทาง เมื่อผ่าน 1735 มาได้หน่อยเดียวก็มาเจอะกับแนวต้านบริเวณ 1750 1755 อีก ผ่านไปได้อีกหน่อยเราก็ต้องเจอกับช่วง 1770 ต่ออีกครับ จึงต้องมาให้ท่องมนต์เตือนใจกันไว้ 
มนต์ที่ว่าคือ "พอใจขาย อยากถือต่อ ลุ้นให้ไม่หลุดแนวหนุนหลักก็ถือไป แต่ถ้ามีสัญญาณเตือนออกมาจากกราฟก็ให้เริ่มระวังและลดพอร์ต" 



สถานการณ์ตอนนี้ของทองคือราคามาทดสอบเส้น Fibo เส้นที่สาม ในเชิงทฤษฎีถ้าผ่านเส้นนี้ได้ก็จะกลับขึ้นไป 1797 ได้ โดยตรงจุดนี้มีแนวต้านอีกอย่างคือช่วงการฟอร์มตัวของช่วงที่ขึ้นทดสอบ 1790 มาเบรกไว้ด้วย ทำให้ตัวผมเอง พอร์ตผมเองต้องระวังและต้องเชื่อว่าการจะผ่านช่วงนี้ไปได้คงยากไม่แพ้ช่วง 1735 และอาจยากกว่าเพราะอินดิเคเตอร์ไม่ได้แข็งแรงอย่างช่วงก่อนด้วยครับ




 สภาพของ Sto อยุ่โซนบนเตรียมตัดลงแล้วครับ ถ้าตัดลงมาต่ำกว่า 80 ของ Sto ก็ต้องลดพอร์ตครับ ระดับ RSI อยู่ที่ราว 55 โดยย่อตัวจากระดับ 60 การกลับตัวขึ้นรอบแรกไม่จำเป็นต้องไปถึง 70 ต้องระวัง โดยส่วนตัวผมเดาการฟอร์มตัวของ RSI ไว้ว่าจะมีย่อบ้างแต่ไม่ลงถึง 35 -40 MACD ยังคงยกตัวขึ้นได้อยู่ขึ้นอยู่กับวันนี้ถ้าปิดวันแล้วลงต่ำกว่าเดิมก็ดูไม่ดีเท่าไหร่แต่ยังไม่ได้บอกอะไรมากนัก โดยรวมอินดิเคเตอร์รายวัน ต้องตามจับตาดูในวันสองวันนี้ว่าตัดลงหรือเปล่า 
โดยสรุปแล้วสัญญาณของกราฟรายวันก็ตึงๆ ครับ เป็นผมถ้าSto ตัดลงมาจริงๆ ผมคงเหลือพอร์ตแค่20 % แล้วค่อยหาจังหวะเล่นกันไปอีกทีครับ 
สุดท้ายวันนี้เอาเคสการฟอร์มตัวขึ้นในช่วงปีก่อนๆ มาให้ดูครับว่าเวลาขึ้นมันขึ้นไปอีท่าไหนกันบ้างครับ การหลุดเทรนด์ไม่จำเป็นต้องร่วงและกลับตัวลง แค่ไม่หลุดแนวหนุนหลักที่เป็นช่วงการฟอร์มตัวในช่วก่อนก็ยื้อถือกันไปครับ




Wealthstation Guide 28.11.55


ราคาทองไหลลู่ลงมาที่เส้นกรอบล่าง วัดใจกัน
เชิงเทคนิคมองได้สองแบบ คือไม่หลุดแล้วเด้งขึ้นก็สบายๆ แต่ถ้าหลุดเทรนด์ก็ไม่สบาย แต่อาจไม่ลง จึงขอใช้เป็นแนวราคาเป็นหลัก ที่ 1735 - 1738 ครับ ไม่หลุดแนวนี้ยังมองขึ้น
เช้านี้เกิดสัญญาณซื้อ เข้าเก็บบริเวณ 1738 - 1742 เป้า 1748 1752 เป็นได้ทั้งเป้าสั้นและเป้าระยะยาวครับ เป้ายาวที่ 1760 1770 
การที่ทองย่อตัวแบบนี้เอาที่แนวต้าน 1750 - 1755 ก็เป็นอย่างที่ให้ระวังไว้ก่อนหน้านี้ วันนี้ก็เลยขอเช็คอาการกันหน่อยครับ ที่ www.ubwealth.blogspot.com 




วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มามั่ง/ไม่มามั่ง by นักขายหมูขอรับ(27.11.55)


ก็อย่างที่ว่าไว้ว่า Black Friday เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความผันผวนของราคาทองคำ มันก็จัดเต็มให้ซะตั้งแต่วันแรก ก็เลยยังไม่ทันเข้าธันวาอย่างที่ประมาณไว้ ก็วิ่งแรงซะแร้วว ส่วนหลักๆก็มาจากยูโรโซนจะให้ตังค์กรีซ แต่ใช่ว่าปัญหาจะคลี่คลาย เพราะเรื่องวุ่นวายยังมีอีกเพียบ

แนะนำเล่นรอบในกรอบ 1690-1760 เข้าใกล้ฝั่งไหน ก็เล่นสวนมันซะเลย
แนะนำเล่นเร็วในช่วง 1710-1730 ดูจังหวะทางเทคนิคเอาเองแบบ realtime นะขอรับ
ค่ากลางสำหรับวัดทิศทางระยะสั้นจนถึงสิ้นปี 1721 เหมือนเดิม (อย่ามาเปิดสถานะอะไรแถวนี้ เพราะเสียคอมม์เปล่าๆ)
ค่ากลางสำหรับวัดทิศทางระยะสั้นของสัปดาห์นี้ 1737-1741
แนวรับแน่นๆ 1660 เหมือนเดิม (เผื่อมันฟลุ๊คๆหลุด 1700 จะได้จัดเต็มได้แบบไม่มีลังเล)




Morning guide 27.11.55


ทิศทางราคาทองทรงตัวในกรอบแคบทั้งวัน ในช่วง 1745 - 1752 
คงต้องมาตามดูว่าจะเบรกกรอบเมื่อไหร่ครับ
แนวหนุนหลัก 1735 ยังไม่หลุดแนวนี้ยังมองขึ้นครับ เป้า 1760 - 1770 


วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สิ่งที่รออยู่ด้านบนและสิ่งที่รออยู่ปลายปี 26.11.55

ว่ากันด้วยเรื่องที่รออยู่ด้านบนก่อนนะครับ ไม่ใช่แนวต้านนะครับที่จะมาเล่าให้ฟังวันนี้ แต่เป็นสถานการณ์ต่างหาก สถานการณ์ที่รอเราอยู่หากราคาทองมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหลังจากนี้ ต้องบอกว่าผมเองมอง1800 1850 1900 ไว้ แค่ว่าต้นปี กลางปี ปลายปีหน้าเท่านั้น 
แต่เพื่อความเป็นกลาง เลยต้องใช้คำว่า "ถ้า" ถ้าขึ้น 
วันก่อนผมกำลังอยู่ระหว่างการเดินทาง ผมก็นึกอะไรได้ ในกลุ่มเพื่อนผมที่เฝ้าติดตามราคาทอง กำลังจ้องมองโอกาสในการทำอาบิทราจ(Arbitrage) ระหว่างราคาจีเอฟกับทองแท่ง 
หัวเรื่องการทำอาบิทราจคือการทำกำไรในสถานการณ์ที่ไม่มีความเสี่ยง ไม่ความเสี่ยงแม้แต่น้อยนั่นว่ากันตามทฤษฎี แต่ดวยประสบการณ์และจากที่รู้เห็นและรับฟังมา ยังไม่เจอจุดที่ไม่มีความเสียง เจอเพียงแต่สถานการณ์ที่เราไม่ต้องคำนึงถึงความเสียงทิศทาง กล่าวคือในการเข้าทำกำไรปกติเราจะต้องลุ้นในทางใดทางหนึ่งไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ซึ่งโอกาสผิดทางมีสูงราว 20 - 40 % เป็นอย่างน้อย แต่ในการทำกำไรแบบอาบิทราจนั้นเราจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเรา "ซื้อ" และ "ขาย"  พร้อมๆ กันในสินทรัพย์ชนิดเดียวกันแต่คนละตราสารเช่น ทองแท่งกับจีเอฟเป็นต้น เมื่อทำการซื้อและขายพร้อมๆ กัน ในทอง เราจึงไม่ห่วงเรื่องทิศทางเมื่อกำไรด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจะขาดทุน สองด้านจะชดเชยกันและกัน เมื่อถือจนถึงครบกำหนดเวลาก็ "ซื้อคืน" และ "ขาย" ออกไป จุดเริ่มทำการซื้อตัวถูกขายตัวแพง ถ้าราคาจีเอฟสูงกว่าราคาทองแท่งมากๆ เราก็ "ขาย" จีเอฟและซื้อทองแท่ง จากประสบการณ์ช่วงราคาที่เราเริ่มสนใจที่จะทำอาบิทราจนั้นอยู่ที่ส่วนต่างราว 300 - 350 เป้นต้นไป เพื่อให้ครอบคลุมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย การทำอาบิทราจ หัวใจอยู่ที่การบริหารต้นทุนต่างๆ ทั้งค่าธรรมเนียมและต้นทุนเงินทุน สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการหมุนเงิน ในเวลาที่ระหว่างทางเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคามากๆ เช่นขึ้นเยอะๆ เพราะเราต้องเอาเงินไปเติมในพอร์ตจีเอฟ เพราะเอาเอสไว้ เราจะขายแท่งออกก่อนเพื่อเอาเงินไปเติมก็ไม่ได้ เป็นปัญหาหนึ่งที่เราๆ ต้องเตรียมรับมือ 
ภาวะตลาดทองที่อาจเป็นแบบในช่วงที่ปีที่ผ่านๆ มา ทำให้เราเฝ้ารอจังหวะในการเข้าทำกำไรแบบไม่มีความเสียงหรือความเสี่ยงที่ไม่มีความเสียงด้านทิศทางราคาเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องอาศัยช่วงห่างของตราสารที่มากเพียงพอต่อต้นทุนต่างๆ และการบริหารเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เปลียนแปลงมากๆ  ดังนั้นการเข้าทำกำไรแบบอาบิทราจจึงต้องใช้ความรู้ความใจในหลายด้าน แต่ถ้าสามารถทำได้ผลตอบแทนก็น่าพอใจ 

ส่วนเรื่องต่อมาคือเรื่องที่เราอาจจะยังไม่กังวลมากนักแต่เริ่มมีเสียงออกมาบ้างแล้ว เกี่ยวกับภาวะตลาดในปลายปี เนื่องจากราคาทองปรับตัวขึ้นมาได้ในช่วงนี้โดยเพิ่งจะผ่านช่วงที่เลวร้ายคือการลงพักฐานราวร้อยกว่าเหรียญ ทำให้ยังคงมีความกังวลเหลืออยู่ ไปเชื่อจริงๆ เอาตอนปลายไม้นู่นแหละครับ ปกติ ไม่ต้องคิดมาก แต่ประเด็นคือเค้าว่าช่วงปลายปีทองมักจะลง หรือช่วงคริสมาสต์ ปิดงบ ทำตัวเลข ไรก็แล้วแต่จะว่าสาเหตุมีมากมาย ด้วยความไม่รู้ ความกังวล ความกลัวก็บังเกิด เราไปดูกันดีกว่าครับ ว่าที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2004 สถานการณ์เดือนสุดท้ายของปีเป็นอย่างไรกันบ้าง


.
2004 เมื่่อเทียบกับต้นเดือน ทองลง











   2005  ขึ้น                    .                                        . 














2006 ลง















2007 ขึ้น













2008  ขึ้น                      .                                        .














2009 ลง











2010 ขึ้น













 2011 ลง
8 ปี เดือนธันวาคม + 4 - 4 
โดยมีปี 2010 กับ 2006 ที่ค่อนข้างทรง แต่ก็เจ๊ากันไปเพราะเป็นบวกและลบ 
เมื่อมองจากโดยรวมแบบนี้แล้วก็ดูไม่มีความแตกต่างหรือมีลักษณะชัดเจนที่จะบอกได้ว่าเดือนสุดท้ายทองลง 
แต่ลงรายละเอียดไปอีกหน่อยตั้งแต่มีคิวอีตั้งแต่ 2009 เป็นต้นมา ถือว่าทรงตัวจนถึง เท จึงไม่แปลกใจที่เราๆ จะกังวลกัน โดยเฉพาะมันเพิ่งเทเอาเมื่อปีที่แล้วนี้เองอดจะฝังใจไม่ได้ เอาไว้เข้าช่วงนั้นแล้วคอยเช็คอาการกันอีกทีครับ 

Morning guide 26.11.55


ทิศทางราคาทองเบียดผ่านแนวฟอร์มตัวขึ้นมาได้ ระยะที่สามารถไปได้จากรูปแบบการฟอร์มตัวสอดคล้องกับกรอบบนที่อยู่ราว 1760 1770 
ระยะต่่อจากนี้ไม่นานราววันสองวันจะมีสัญญาณขายจากกราฟราย 4 ชม.น่าจะทรงตัวจนถึงย่อบ้าง เมื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน อยากขายออกบ้างก็ทำได้ครับ ไว้สะสมอีกครั้งเมื่อเกิดสัญญาณซื้อ
แนวหนุนหลักตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น 1730 - 1735 
ส่วนแนวต้านหลักอยู่ที่ 1760 - 1770 
เที่ยงนี้ผมมีเรื่องมาเล่า สิ่งที่รออยู่ด้านบนกับสิ่งที่รออยู่ในปลายปี ครับ เล็กๆ น้อยๆ ที่ www.ubwealth.blogspot.com