วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Your question? From "Line"( 12.10.55)



เนื่องจากช่วงนี้มีคำถามเข้ามาในไลน์ เห็นว่าน่าจะเอามาอธิบายในนี้เพราะเป็นคำถามที่มีรายละเอียด ผมพิมพ์ลงในไลน์ไม่ไหวก็เลยขอมาตอบในนี้ครับ โดยมีเรื่องราวดังนี้ครับ

1.ตลาดหุ้นกับทอง
2. ทองกับยูโร
3. neck line
4.factor ราคาทอง

เริ่มที่ตลาดหุ้นไทยกับราคาทอง
สิ่งที่เหมือนกันของสองอย่างนี้ชัดๆ ก็คือ สวนทางกับดอลล่าร์

สิ่งที่แตกต่างกันชัดๆ ของสองอย่างนี้คือระดับผลกระทบที่มาจาก

ปัจจัยภายในประเทศไทย ที่ไปกระทบความเชื่อมันในสินทรัพย์ทั้ง

สองอย่างนี้
ต้องบอกว่าจริงๆ หุ้นไทยไม่ได้สวนทางกับดอลล่าร์จริงจังอะไรครับ 

เพียงแต่ตอนนี้เค้าทำ Dollar Carry Trade คือกู้เงินสกุลดอลล่าร์

เนื่องจากดอกเบี้ยต่ำ 0.25% ไปลงทุนในตลาดหุ้นตลาดต่างๆ ทั่ว

โลก เงินก็จะไหลไป อเมริกาใต้ แอฟริกา เอเชีย ยุโรป ถ้าจากที่เรา

ทราบๆ กันมาจะบอกได้ว่าเงินไปที่ไหน ครับ เอเชียครับ เป็นภูมิภาค

ที่เม็ดเงินไหลเข้ามาเพราะมีแนวโน้มเติบโตมากกว่าภูมิภาคอื่น ก่อน

หน้านี้ห้าปี จุดที่น่าสนใจที่สุดคือเอเชียตะวันออก จีน ไต้หวัน ฮ่องกง

 ญี่ปุ่น เกาหลี หลังจากที่จีนเริ่มชะลอความร้อนแรงเพื่อป้องกันฟอง

สบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์และทางเอเชียอาคเนย์มีโปรเจกต์ยักษ์

เรื่อง AEC เข้ามา เม็ดเงินก็เปลี่ยนมาให้น้ำหนักการลงทุนในเขต

อาเซียนมากขึ้นเพราะมองถึงการเติบโต ยังต้องซ่อมต้องสร้างอะไร

อีกเยอะทั้งไทย(รถไฟฟ้า ชลประทาน ฟลัดเวย์ต้องไม่ลืมสามจีด้วย) ..
อินโด(อันนี้ประชากร 200 ล้านคน) พม่า (คนพม่ายังต้องปั่นไฟเองอยู่

เลย)  เพราะฉะนั้น เพราะฉะนั้นเม็ดเงินลงทุนที่ไปกู้มาในรูปเงินดอล

ล่าร์ก็จะถูกขายแล้วเปลี่ยนมาเป็นสกุลเงินเอเชียเพื่อลงทุนผ่าน

ตลาดหลักทรัพย์บ้าง ผ่านการลงทุนจริงๆ บ้าง ในขณะเดียวกันเมื่อ

ดอลล่าร์อ่อนค่า ก็เป็นปกติที่สินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทองจะ

มีการปรับตัวขึ้น
นี่คือความสัมพันธ์ จุดเชื่อม แต่ในรายละเอียด มีความแตกต่างกัน

มากมาย  จุดที่แตกต่างกันชัดๆ คือ ทองไม่ลงเวลาที่บ้านเรามี

รัฐประหาร เผาบ้านเผาเมือง น้ำท่วม ไม่ได้ส่งผลต่อทอง อาจจะมี

บ้างที่แรงซื้อแรงขายบ้านเราไปกระทบแต่แค่สิวๆ เหมือนเอามือตัว

เองไปทุบตอม่อสะพานแขวนอ่ะครับ และอีกอย่างที่ต่างกันคือแรง

ขับเคลื่อน ทองนั้นแรงขับเคลื่อนหลักๆ อยู่ที่นโยบายของธนาคาร

กลางสหรัฐหรือเฟด แต่หุ้นไทยในเวลานี้ขึ้นกับตัวเราเองมากกว่า 

หุ้นสนคิวอีน้อยกว่าทองเยอะครับ
จุดสำคัญคือผมไม่ค่อยพยายามผูกอันนี้เข้ากับอันนั้นอันโน้นนัก ปวด

หัว ลำพังเดาอันเดียวก็ยากอยู่แล้ว ขนาดทองกับดอลล่าร์ผมยังไม่

ค่อยอยากมองไปที่ดอลล่าร์เลยครับหากจะเดาขอดูที่ทองอย่างเดียว

เรื่องต่อมาคือทองกับยูโร หรือทองกับปัญหายูโรโซน
ต้องบอกว่าปกติทองกับค่าเงินยูโรมีทิศทางที่ไปในทางเดียวกันแต่

ปัจจัยที่มาหนุนต่างกัน
ยูโรสวนทางกับดอลล่าร์อันนี้แน่นอนที่สุด เพราะมันผันตรงข้ามกัน

โดยตรง แต่การที่ดอลล่าร์อ่อนแล้วสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นเนี่ย 

ผมเองก็ไม่รู้ว่าใครไปกำหนดไว้แบบนั้นแต่ผมเดาว่ายังเป็นเรื่อง

ของDollar Carry Trade และการกลัวเงินเฟ้อเข้าถือสินค้าโภคภัณฑ์

เพื่อถัวความเสี่ยงเงินเฟ้อ
ลำพังทองอย่างเดียว สิ่งที่เป็นปัจจัยหลักๆ พื้นฐานเลยคือดีมาน

ด์ซัพพลาย เหมืองทอง ธนาคารกลาง ความเชื่อมั่นในสกุลเงินปลอดภัยอย่างดอลล่าร์ เยน สวิสฟรัง
แต่สกุลเงินยูโรขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อของกลุ่มยูโร และกับในยามนี้คือความเชื่อมั่น
หากมีปัญหาความเชื่อมั่นในเงิน สกุลต่างๆ โดยเฉพาะสกุลเงิน

ปลอดภัย ทองจะปรับตัวขึ้นจากการที่มันเป็นสินค้าทดแทน แต่หาก

เป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจที่กระเทือนไปในวงกว้างไม่แค่เฉพาะยูโร

โซน ทองจะลงจากการดึงเงินกลับเข้าสหรัฐ ลดการลงทุนถือเป็น

เงินสด จากที่ผ่านมาเวลาที่ยูโรมีปัญหาขึ้นมาทีไร ทองลงแทบตลอด

 มีอยู่ครั้งนึงที่ความเชื่อมั่นในเงินยูโรลดลง ตอนที่ทำ Stress Test 

ครั้งที่สองของธนาคารยุโรป ผลออกมาดี แต่เค้าไม่บอกว่าดียังไงเอา

อะไรมาวัด เหมือนบอกว่าสอบผ่าน แต่ไม่บอกว่าที่ผ่านมาได้ทำ

ข้อสอบได้กี่คะแนน  กระเทือนความเชื่อมั่น ตอนนั้นทองขึ้น หรือไม่

นานจากนั้นอยู่ๆ ทองก็วิ่งแรงแต่จำไม่ได้ว่าลงแรงหรือขึ้นแรงเพราะ

เงินสวิสฟรังดีดแรงเนื่องจากความเชื่อมั่นในเงินยูโรหดหาย แต่เงินส

วิสยังคงความน่าเชื่อถือเป็นต้น
เท่าที่ผ่านมา ถ้ายูโรโซนมีปัญหาหนักๆ เข้ามาและหาทางออกไม่ได้ 

ทองลง โดยถ้าเป็นในแง่ของการอัดฉีดเงินของทางกลุ่มยุโรปก็เกี่ยว

กับทองน้อยมากเพราะมันออฟเซ็ตในตัวมันเอง ไม่มีผล
เพราะฉะนั้นถ้าถามเกี่ยวกับสเปนในตอนนี้จะมีผลกับทองในทางใด 

ถ้ากระเทือนถึงการเข้าซื้อพันธบัตรก็จะทำให้ทองปรับตัวลงได้ 

ทำให้ตกใจได้ แต่หลักๆ ไม่เปลี่ยนแนวโน้มหลักเพราะสหรัฐบอกไป

แล้วว่าเป้าหมายเค้าอยู่อีกไกลแค่ไหนจะไม่หลุดจนกว่าผลจะออกมา

น่าพอใจ เม็ดเงินที่เข้ามาที่มีผลต่อทองทางสหรัฐถือว่ามีผลมากกว่า

 ผมว่าเค้าไม่หยุดทำเอาง่ายๆตอนนี้แน่ๆ

เรื่องต่อมาเป็นคำถามเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค เรื่อง neck 

line ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจครับสำหรับเวลานี้ เป็นตัววัดว่าทองจะ

หลุดหรือเปล่า จะผ่านหรือเปล่า คำนิยามของ Neck Line ก็ง่ายๆ ครั

. เส้นที่คอ ระยะจากหัวถึงเส้นที่คอ คือระยะที่จะลงจากไหล่ไปสุด

แขน(ลงสุด) และถ้าหลุดเส้นที่คอลงมาแล้ว กลับไปเกินเส้นที่คอไม่

ได้ ก็จะลงจริงๆ อีกทีครับ ตัวอย่างของเส้นที่คอที่ชัดเจนที่สุดคือ

ตอนทำสามหัวที่ 1400  1420 แล้วลงไป 1308 นั่นแหละครับเป๊ะ

มากตามในรูป 1 กับสถานการณ์ตอนนี้ ไล่ตั้งแต่ตามรูปที่ 2 มีเส้น

ที่เป็น neck line อยู่ถึง 4 เส้น A, B, C และ D  โดย A และB ใช้ไป

แล้วผ่านลงมาแล้ว และกลับไปเกินกว่าเส้นนั้นไม่ได้ด้วยก็เลยลงมา

ตามลำดับครับ ในนาทีนี้เส้นที่ใช้อยู่คือเส้น C แต่เส้นที่สำคัญที่สุด

และอาจเป็นประเด็นในช่วงต่อไปคือเส้น D สำหรับเส้น D คอนเฟิร์ม

แนวแล้วด้วยตอนที่ลงมา 1756 ถ้าหลุดแล้วมีรีบาวด์แล้วกลับมาเกิน

กว่าจุดนั้นไม่ได้ เป้าอยู่ที่ 1710  1720 ครับ อย่าได้ตกอกตกใจไป

ครับ  ทำใจไว้ตั้งแต่ต้นหรือเปล่าครับสำหรับท่านที่ซื้อไว้แล้ว ถ้า

ทำใจไว้แล้วต่อให้ลงมาจริงๆ (ไม่รู้เหมือนกันแต่อยากให้ลง) ก็ถือไป

 และเก็บเพิ่มครับ ส่วนจะลงไม่ลง ถึงตอนนี้ต้องเรียกว่ายังมีโอกาส 

โดยเฉพาะกลับไปเกิน 1780 ไม่ได้ในวันสองวันนี้ครับ



เรื่องสุดท้าย ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทอง

แยกเป็นสองทางหลักๆ คือ ดีมานด์ความต้องการซื้อทองและซัพพลาย แหล่ง

ป้อนทองสู่ตลาด 

ความต้องการทองคำในปัจจุบัน ส่วนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือความต้องการทองในการลงทุน ส่วนการซื้อทองไปเป็นเครื่องประดับนั้นลดลงเนื่องจากราคาที่

สูงขึ้น และสูงขึ้นมาก อีกส่วนนึงที่ถือเป็นปัจจัยหลักคือ จากธนาคารกลาง 

ธนาคารกลางประเทศต่างๆ จำเป็นต้องมีสินทรัพย์มาหนุนค่าเงินตัวเองเพื่อใ

ห้มีความน่าเชื่อถือมากพอ ทองและดอลล่าร์เป็นตัวหลักที่เค้าถือไว้ ในช่วง

ที่ผ่านมาค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงทำให้ทองมีความสำคัญกับพอร์ตของ

ธนาคารกลางมากขึ้นเพราะความด้อยค่าของดอลล่าร์ เวลาที่ดอลล่าร์อ่อนค่

าลงอย่างมีนัยยะสำคัญมักจะมีข่าวการเข้าซื้อทองของธนาคารกลางออกมา 

ในส่วนของซัพพลายของทองหรือแหล่งผลิตทอง นอกจากเหมืองทองที่มีอยู่อย่างจำกัดแล้วเราจะมีธนาคารกลางเป็นแหล่งที่มาได้ด้วยเวลาที่ธนาคารกลางปรับพอร์ตที ทองจำนวนมากจะออกมาแต่เนื่องจากมีมาตรการรองรับ

ในส่วนนี้หลายอย่างและไม่ได้เกิดบ่อยๆ จึงไม่ค่อยได้เห็นนัก

สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ สำหรับการติดตามราคาทองคือ นโยบายการเงิน

สหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะมากระทบนโยบาย ข่าวความเป็นไปในยูโรโซน 

ราคาน้ำมัน ทิศทางค่าเงินดอลล่าร์

สิ่งที่ถือว่าเป็นตัวผลักดันหลักๆ คือนโยบายการเงินสหรัฐ เปรียบว่าการเทรด

ทองเป็นการเทรดหุ้น ผลประกอบการของสหรัฐเป็นตัวที่เราจะต้องติดตาม 

กำไรดีไหม หนี้เยอะไปไหม อัตราการเจริญเติบโตเป็นอย่างไร แผนงานเป็น

อย่างไร แต่สิ่งที่นำมาประกอบกับทองต้องกลับหัวกลับหางกันครับถ้าสหรั

แย่ ทองจะดีครับ ซึ่งมันจะออกมาในคำพูดที่ว่า ถ้ามีแววว่าค่าเงินดอลล่าร์จะ

อ่อนทองจะขึ้น และถ้าดอลล่าร์จะแข็งทองจะลง 

ปัจจัยที่มากระทบต่อทองนั้นมีมากมาย สงครามก็ใช่ แต่หลังๆ สนน้อยลง 

สงครามเดี๋ยวนี้ไม่กระจายเป็นวงกว้าง 

ทำให้ปัจจัยอีกอย่่างเข้ามามีบทบาทคือปัจจัยทางเทคนิค เพราะคนเทรดทอง

ให้น้ำหนักกับเทคนิคกันเยอะ และเป็นอย่างนี้มาตลอด 

เพื่อให้เห็นภาพ ป้จจัยที่มาส่งผลต่อราคาทองมักเป็นปัจจัยด้านตลาดเงิน

มากกว่าตลาดทุน กล่าวคือผมมักเงี่ยหูฟังข่าวทองจากพวกเว็บเทรดค่าเงิน 

มากกว่าข่าวตลาดหุ้น ทองมีลักษณะที่ต่างจากโลหะอื่นๆ คือจุดนี้ คือมัน

แทนเงินได้ ราวๆ นี้ครับ 

ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องตามตลาดให้ทันอย่าอ่านข่าวหนังสือพิมพ์เพราะมันจะ

ช้าไปสองวัน รู้ว่าอะไรที่เป็นเหตุผลในตลาดในเวลานั้น ความถูกต้องเป็นรอง

ความเชื่อของคนส่วนใหญ่ครับ คนเชื่อว่าไง คนส่วนใหญ่ว่าไง ว่างั้นครับ แค่

ถ้าเราไม่ได้เชื่อไปเหมือนพวกเค้าเราก็มีทางเลือกคือสวนทางกับอยู่เฉยๆ ครับ 

หลายๆ ครั้งที่ผมต้องตอบไปว่าเหตุผลช่างมัน เวลาที่ลูกค้าถามว่าทำไมมัน

ขึ้นทำไมมันลง เอาเป็นว่ามันขึ้นลงแล้วเราเทรดตามหรือเปล่ากำไรหรือ

ขาดทุน

จบที่ตรงนี้ครับ คำถาม ข้อสงสัย ที่ถามเข้ามาผมตอบหมด แค่ว่าจะตอบไป

ทางไหน ในไลน์หรือหน้าเพจครับ มีอะไรสอบถามเพิ่มเติมก็ตามเข้ามาได้

ครับ ยินดีเสมอ

Morning guide 12.10.55


ทิศทางราคาทอง ฟื้นตัว
ไม่หลุด 1765 มีลุ้นขึ้นทดสอบ 1773 1777 1780 อีกรอบซึ่งเป็นแนวสำคัญในการจะเปลี่ยนจากจังหวะรีบาวด์(ลงแตะ 1756 แล้วเด้ง) เป็นจังหวะกลับตัว แต่ถ้าหลุด 1765 ก็ลงมาวัดใจที่ 1758 - 1762 หลุดแนวนี้ก็ต้องไปที่ 1753 1745 ครับ
ผมคิดว่าแรงกลับยังมีอยู่บ้าง กราฟรายวัน macd ยังสูงพอสมควรมีโอกาสลากขึ้นต่อไปได้
ผมได้บอกไปตั้งแต่ต้นสัปดาห์แล้วว่าสัปดาห์นี้เราต้องหาแนวหนุนมาใช้ คือมองลง แต่มีหลายท่านที่อยากเก็บของ เก็บไปตรงบริเวณ 1770 1780 รวมไปถึง 1790 ต้องบอกว่าไม่ต้องกังวลนะครับ เป้าหมายระยะ 4 - 6 เดือนมอง 1850 1900 อยู่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแม้ผลโพลล่าสุดจะบอกนายรอมนี่แซงโอบาม่าก็ตาม ผมเองก็เป็นคนแนะนำเองเสียด้วยว่าถ้ายังไม่มีของควรติดมือไว้ ช่วงนี้ท่านที่ซื้อไว้แล้วกังวลจึงไม่น่าห่วงอะไรครับ ห่วงแต่ท่านที่กล้าเล่นเอส กล้าเล่นเอสช่วงนี้กล้าเล่นต้องกล้าคัต เจ็บใจบ้างดีกว่าครับ ยังคงกลยุทธ์เดิมมีสองกลยุทธ์ในพอร์ตเดียวกันคือเล่นสั้น เล่นยาว ส่วนหนึ่งเล่นยาวถือยาว ซื้อเพิ่มเมื่อทองย่อตัวมาจุดแนวรับหรือย่อมาแล้วเกิดสัญญาณซื้อ ส่วนเล่นสั้นก็เล่นเก็งกำไรตามสัญญาณซื้อสัญญาณขาย
 เดี๋ยววันนี้ช่วงสายๆ ผมมีช่วงที่ต้องออกมาตอบคำถามท่านที่ไลน์เข้ามาสองสามคำถาม ตามมาอ่านกันได้ครับเป็นเรื่องพื้นฐานครับ สนใจก็ตามมาดูได้ www.UBwealth.blogspot.com



ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง มีลักษณะคล้ายกันกับทอง
ทำให้หลายท่านสนใจว่า ทรงทองกับทรงดัชนีหุ้นไทย มันคล้ายกัน จริงหรือเปล่า เพราะอะไร จะมีคำตอบให้ตอนสายๆวันนี้ที่ www.UBwealth.blospot.com
แนวต้านสำคัญคือ 885 ผ่านแนวนี้ก็ขึ้นทดสอบ 890 895 อีกรอบ และถ้าหลุด 872 874 ก็ลงมา 860 เป็นแนวหนุนสำคัญครับ
รอบนี้ฉายให้ดูจากกราฟรายวันที่ ฟอร์มตัวขาขึ้นแข็งแรงดี กว่าจะไล่ให้จนมุมได้ต้องใช้เวลาอีกนานเป็นเดือน 
แรงขายต่างชาติจะกดให้ดัชนีพักตัวลงมาอีกครั้งอาจเกิดสัญญาณซื้อขึ้นที่แนวหนุน คอยตามดูครับ


วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Morning guide 11.10.55


ก็ถล่มทลายกันไปครับสำหรับ Line แอพพลิเคชั่นที่อยู่บนสมาร์ทโฟนมีผู้แอดเข้ามาเยอะมาก ผมเลยให้ทักด้วยจะได้รับแอดถูก ปรากฏเมื่อคืนทักจนแบตหมดกันไปเลยครับ ก็พยายามจะหาทางจัดการส่วนนี้อยู่ว่าจะรับแอดมาเลยหรือเปลี่ยนเป็น Official Account ดี ตัวผมเองเพิ่งเปลี่ยนมือถือจากโนเกียโทรเข้าโทรออกมาเป็น S3 เลยค่อนข้างไปในทาง" ใช้ไม่เป็น" ผู้คิดค้นอาจจะอยากให้ผมกลับไปใช้โนเกียแบบเดิมมากกว่า ต้องขออภัยในความล่าช้า

ทองสามารถทรงตัวบน Fiboลูกคลื่นที่ขึ้นมาจาก 1720 นู่นได้ครับ เป็นจุดที่ระดับ Fibo สองลูกคลื่นมาอยู่ในจุดเดียวกันจึงเหนียวหน่อยครับ แต่ไม่ยอมดีดขึ้นหรือกลับตัวขึ้นจากจุดนี้ การที่มีสัญญาณระยะสั้นออกมาแล้วนิ่งแบบนี้ผมไม่ค่อยชอบ อาจพากันลงไปก่อนครับต้องระวัง คืออาจเห็น 1745 1750 ก่อน
สำหรับท่านที่ยังไม่มีของผมว่าซื้อเลย ถ้าลงมาอีกค่อยซื้อเพิ่มครับ เหลือพอร์ตไว้อีกซักสองสามขยัก เพื่อเก็บเพิ่ม
ส่วนท่านที่มีของแล้วผมว่าเราคงต้องอดทนกันอีกซักไม่เช้านี้ก็บ่ายนี้ คงได้เห็นทิศทาง หรือสัญญาณเข้ามาครับ ว่าจะขึ้นจากตรงนี้เลยหรือลงไปอีกหน่อยก่อนครับ สัญญาณใกล้ออกเต็มแก่ รออีกไม่นานแล้ว
จะรีบมาบอกทันทีครับ ที่นี่ไปก่อนครับผม
แนวต้าน 1768 1775 1782
แนวหนุน 1758 1749 1745 
รอสัญญาณซื้อ หรือซื้อเลยแล้วลงมาเก็บที่ 1745 1749 อีกทีครับ ถ้าได้เห็น


Evening guide 10.10.55



ทิศทางราคาทองทรงตัวเหนือ 1760 ได้ทั้งเช้าและบ่าย
พอดีมองเหมือนกัน ก็เลยขอก๊อปปี้มาครับ 
ไม่ผ่าน 1770 - 1772 มองลงครับ เป้า 1753 1746 
ถ้าสามารถผ่านได้จริงๆ ก็มอง 1780 1784 เย็นนี้ฝรั่งว่างั้น...
คืนนี้ตีหนึ่ง Beige Book จะอะไรหรือเปล่าหนอ

วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555

morning guide 10.10.55

เช้านี้ทองกลับมาแตะระดับต่ำสุดอีกครั้ง เป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบครึ่งเดือน แต่ RSI ราย 4 ชม.ลงมาต่ำสุดในรอบ 55 วัน 
ดูไม่ดีนักผมเกรงว่า 1759 1755 อาจเป็นเป้าหมายในการปรับตัวลงระดับนึงเท่านั้นอาจมีลึกกว่านี้ได้อีกหน่อยก่อนรีบาวด์
จังหวะการเล่นของวันนี้จับจังหวะเล่นเด้ง เป้า 1768 1773 1775
ส่วนซื้อตรงไหนต้องรอดูครับ แต่น่าจะเป็นแนวแถว 1742 1755 ครับ ถ้าลงถึง 1742 เป้าจะเหลือแค่ 1770 เท่านั้น
และน่าจะบ่ายนี้เป็นต้นไปครับที่ดูแล้วน่าจะมีจังหวะให้เล่น


Last view 9.10.55


ทิศทางราคาทองฟอร์มตัวสวยถึงสวยมาก ง่ายต่อการคาดเดาอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป ราคาทองพยายามจะไต่ตัวผ่านแนว 1778 1780 ขึ้นไปแต่ไม่สำเร็จ และร่วงลงมาลึกถึง 1760 
การทรงตัวต่ำกว่า 1765 ทำให้ RSI ราย 4 ชม.หลุด 40 ลงมาด้วยทั้งรายครึ่งชม.และ 4 ชม.เวลานี้ยังต้องรอสัญญาณซื้อเพื่อเข้าซื้ออยู่ครับ แนวที่คาดว่าจะรับอยู่คือ 1755 1752 หรือต้องดูถึงพรุ่งนี้ครับ เข้าจุดโฟกัสเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน 


วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

SMS Set 50


สัญญาณ SMS ตัว Set50 ที่ส่งไปให้นั้น ต้องบอกก่อนว่าเป็นฝีมือของอีกท่านนึงมิได้เป็นผลงานของผม ผมเพียงแต่นำมาใช้ประกอบกับการลงทุนทองเพื่อให้ครบวงจรเท่านั้นครับ ผมเองยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านตลาดหุ้นอีกมากทีเดียว
SMS ที่ส่งไปนั้นทั้งหมดมี 3 ระบบ TTS , CHF และ LT
ปกติเราๆ ที่ดูกราฟเทคนิคเมื่ออินดิเคเตอร์มาแตะระดับที่ที่เป็นสัญญาณซื้อสัญญาณขาย เราก็จะทำตามนั้น เช่น RSI ที่ระดับ 70 เราก็ขาย เป็นต้น เป็นตัวอย่างแบบง่ายๆ ครับ ซึ่งที่จริงผมเองก็ไม่ทราบว่าเค้ากำหนดเงื่อนไขไว้อย่างไรแต่คงไม่ใช่ด้วยอินดิเคเตอร์ตัวเดียว เพื่อให้เข้าใจจึงขอใช้เงื่อนไขง่ายๆ นี้อธิบายครับ
สมมติว่าเวลาที่ราคาฟิวเจอร์ Set50 วิ่งขึ้นมาจนถึง RSI 70 ที่ปกติแล้วเราจะขายที่จุดนั้น SMS นี้ก็จะส่งมาบอกเราว่ามันเกิดเหตุการณ์ที่เราตั้งใจไว้เพื่อเราจะได้ขายตามที่เราตั้งใจครับ
แต่สำหรับเงื่อนไขของ TTS , CHF และ LT นั้น มีเงื่อนไขมากกว่านั้นมากครับ และบางทีก็ไม่ได้ใช้อินดิเคเตอร์ด้วย ผมเองก็ไม่รู้ว่าเค้าใช้อะไรครับ รู้แต่เพียงเทรดตามระบบ แล้วได้ตังค์ เทรดตามระบบแล้วเงินในพอร์ตเพิ่ม  โดยเฉพาะเมื่อตลาดมีทิศทางทางใดทางหนึ่ง
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อคืออยากให้ท่านผู้ติดตามลองติดตามผลงานมันดู ชอบใจตัวไหน ก็ลองตามดูว่ามันทำให้เงินเราเพิ่มได้จริงๆหรือเปล่าจากประสบการณ์และมุมมองตัวท่านเอง
ผมเองก็มีพอร์ตเพื่อตามสัญญาณนี้อยู่ แต่ไม่อยากชี้นำ อยากให้เลือกตามความชอบแต่ละคนมากกว่าครับ
แต่อยากแนะนำว่า ถ้าจะเทรดผมอยากให้มีอย่างน้อย 2 ระบบอยู่ในพอร์ตและหนึ่งในนั้นคือ LT ไม่ต้องเข้าออกบ่อยและตามสัญญาณระยะยาว ส่วนอีกระบบก็แล้วแต่ชอบครับ ไม่ว่าจะ TTS หรือ CHF
การเทรดตามระบบนั้น ในบางครั้งจนถึงหลายๆ ครั้งมันจะขัดกับความรู้สึกของเรา ก็เป็นธรรมดาครับเพราะถ้าเทรดตามอารมณ์เรามักถูกผิดพอๆ กันครับ ทีนี้การเทรดของเราจะง่ายขึ้นเพราะเราไม่ต้องไปตั้งเงื่อนไขเอง เพียงแต่มีวินัยที่ว่าทำตามระบบ ที่เลือก ไว้เงินในพอร์ตให้เพียงพอ และเพิ่มจำนวนการเทรดอย่างระมัดระวัง(อันนี้สำคัญ) ครับแล้วนอกจากเราจะอยู่รอดได้ในการเทรดฟิวเจอร์ที่ใครๆ ว่ายาก แล้วยังทำกำไรได้ด้วยครับ

Morning guide 9.10.55


ไม่ผ่าน 1780 มอง 1755 1759 
ผ่านได้ มอง 1800 1820 
แต่ไม่น่าผ่าน




ตลาดหุ้นช่วงนี้มีประเด็นเล็กน้อยเข้ามา แต่เช้านี้เอเชียบวกเสียส่วนใหญ่ ไม่น่าจะมีอะไรครับ ถ้ามีจริงๆ หลุด 880 882 885 ก็อย่าใจร้อนรีบเข้าซื้อนะครับ อย่างมากก็แค่รีบาวด์ไปไม่ไกลถ้าหลุดนะครับ
มองว่าทรงตัวในวันนี้เพื่อเลือกทางครับ ผ่าน 890 892 ได้ถึงมองขึ้นต่อครับ
แนวต้าน 890 892 895 
แนวหนุน 885 882 



Main Frame 9.10.55

               ช่วงนี้โดยส่วนตัวแม้ระยะสั้นผมยังให้แนวทางการเทรดได้ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นช่วงที่ความมั่นใจน้อยกว่าพักก่อนหน่อยนึงครับ ต้องคอยเปิดกราฟหลายๆ เหลี่ยม หลายๆ มุมดู เพราะกลัวทิ้งแล้วดันซื้อไว้ หรือกลัวมันพุ่งไปอีกแต่ยังไม่ได้เก็บของ 
เมื่อมองจากภาพรวมใหญ่ๆ เลยเนี่ยราคาทองช่วงแนวต้าน 1780 - 1800 เนี่ยเป็นแนวต้านระดับมาสเตอร์ เป็นแนวต้านที่แข็งมากครับ(หรือเปล่า) นี่คือครั้งที่สามที่ราคาทองกลับมาทดสอบแนวต้านนี้แล้วยังย่อตั้งหลักอยู่ครับ ยังไม่สามารถผ่านไปได้ การกลับมาตั้งหลักถึงระดับ 1766 ในช่วงวันสองวันนี้ยังไม่ถือว่าลึก จึงทำให้การคาดเดาค่อนข้างยาก ลงลึกก็มีคนรับซื้อ ขึ้นไปก็โดนกดลงมา จำเป็นต้องดูจากอะไรหลายๆ อย่างโดยเฉพาะ "ทรงกราฟ" ยกตัวขึ้นเรื่อยๆ ก็ดูดีครับ เท่าที่เป็นอยู่จนถึงตอนที่ผมพิมพ์อยู่นี้ก็ต้องถือว่าเกิดจุดต่ำที่ต่ำกว่าจุดต่ำเดิมแล้วกล่าวคือก่อนที่ทองจะขึ้นทดสอบ 1795 รอบล่าสุดนั้นทองพักตัวที่ 1770 แล้วขึ้นทดสอบ 1795 แต่โดนเทหลุดแนว 1770 ลงมา อาจจะถือว่าใกล้เคียงก็ได้ครับ อาจไม่นับว่าเกิด "จุดต่ำใหม่" แต่ถ้าลงมาอีกทีก็เรียบร้อย เสียทรง ถ้าไม่มีปัจจัยใดๆ มากระทบในช่วงนี้ราคาทองจะพักตัวลึกกว่าเดิมครับ เท่าที่ดูไว้คือแนว 1758 - 1760 ทำให้กราฟรายวันส่งสัญญาณลบออกมาเรื่อยๆ และเข้มขึ้นด้วย เป็นจังหวะที่สุ่มเสี่ยง ถ้าในสถานการณ์ปกติผมคงต้องเอสลงไป แต่ด้วยปัจจัยเกื้อหนุนจึงต้องทำอย่างระวังอย่างที่สุด ถ้าไม่จำเป็นหรือมีสัญญาณชัดๆ ผมคงไม่กล้า ถึงกล้าก็คงจัดไปเพียงจำนวนสัญญาที่น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับปกติ 
             ระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับในแต่ละท่านไม่เหมือนกันทั้งความชอบในความเสี่ยงที่ไม่เท่ากันและระดับการรับความเสี่ยงได้(ขนาดพอร์ต) ก็ไม่เท่ากันทำให้ในช่วงนี้ท่านที่กล้าลุ้นและรับความเสี่ยงได้อาจทำการซื้อลงเพื่อทำกำไรจากสัญญาณลบนี้ แต่ท่านที่รับความเสี่ยงไม่ได้และไม่ชอบความเสี่ยงสูงก็ต้องรอซื้อ แต่ที่ทั้งระดับความเสี่ยงต้องติดตามในช่วงสัปดาห์ถึงสองสัปดาห์ต่อจากนี้คือ "สัญญาณซื้อ" ไม่เกิดสัญญาณยังไม่รีบซื้อเว้นแต่มาถึงระดับเป้าหมาย และถ้าสัญญาณมาก่อนถึงระดับแนวรับที่ตั้งคือยังลงไม่ถึงแต่เกิดสัญญาณซื้อเสียก่อนก็ต้องซื้อหรือปิดสถานะซื้อลง ออกมาครับ 
            อันที่จริงผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันจะลงมาถึง 1680 1710 1730 1750 หรือเปล่าทั้งๆ ที่กราฟส่งสัญญาณลบและน่าจะมาให้เห็นได้แต่ต้องระวังอยู่ตลอดว่าจะดีดขึ้นครับ อยากให้ท่านที่เทรดทองไม่ว่าจะจีเอฟหรือทองแท่งติดตามตลาดด้วยแนวคิดนี้ครับ "ไม่เกิดสัญญาณซื้อยังไม่รีบซื้อ และถ้าเกิดสัญญาณซื้อแม้ยังลงมาไม่ถึงแนวที่ตั้งใจก็ต้องซื้อ" ต้องบอกว่าติดหรือซื้อแพงตอนนี้ไม่ถือว่าแพงในระยะเวลาข้างหน้าทองจะแพงกว่านี้ไม่น้อยครับจากที่คาดหมายกันไว้
          

                หลังจากเริ่มส่งมาซักระยะนึง ทำให้ผมเริ่มบอกได้ว่า ตอนนี้ผมมีการส่งสัญญาณบอกขึ้น สัญญาณบอกลง  ไปทางโทรศัพท์ด้วย ทั้งทาง SMS , Line และ Whats App เสียงตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว ในส่วนของ SMS คงต้องขอไว้สำหรับลูกค้าของผมหรือผู้ที่สนใจจริงๆ(ถ้าอยากได้ก็บอกกันได้ครับ)  เพราะมันมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมา แต่ Line และ Whats App คงเปิดรับได้ในหลายระดับความสนใจครับ ถ้าสนใจแจ้งความจำนงมาที่เมล์ผมได้ครับ UBwealth@gmail.com
             โดยสรุปช่วงนี้ราคาทองมีแนวโน้มย่อตัวและอาจลึก ต้องระวังที่จะไม่เข้าซื้อมากเกินกว่าจะแก้พอร์ตได้ เช่นจีเอฟถ้าลงลึกมาแล้วเติมเงินไม่ไหวต้องปิดไป ตอนลงอาจถือสิบตัว แต่ตอนกลับขึ้นกลับถือมาได้แค่ห้าตัวจะเสียดายเอาครับ หาจังหวะซื้อเมื่อเกิดสัญญาณซื้อและมาถึงแนวรับที่ตั้งใจ 

มามั่ง/ไม่มามั่ง by นักขายหมูขอรับ(8.10.55)

ดูจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแล้ว คาดว่า สเปนคงจะได้เงินกู้ภายในสิ้นปีนี้ แม้ว่าจะไม่อยากเสียเอกราชทางการเงินให้กับเยอรมันก็ตาม ส่วนกรีซที่ดูจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ กับการเจรจาทรอยก้าและระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน แต่สุดท้ายก็คงจะได้รับเงินกู้งวดใหม่ไปในเวลาไล่เลี่ยกันกับสเปน ซึ่งผลลัพธ์เหล่านี้จะทำให้ทองขึ้น แต่..........

แต่ตอนนี้เราควรโฟกัสไปที่การเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯมากกว่า เพราะจะเป็นตัวกำหนดทิศทางนโยบายการเงินของโลก (เบอร์นันเก้ก็ขึ้นมาได้ในสมัยบุช รอบนี้ก็กำลังจะหมดวาระแล้ว พรรคไหนมาก็ต้องแต่งตั้งผู้ว่าฯเฟด) ซึ่งผมเชื่อว่ายุโรปเองก็กำลังรอเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ฉะนั้น ถึงแม้แนวโน้มทองจะกลับตัวเป็นขาขึ้นสู่ 2,250 แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่ทางขึ้นเท่านั้น

ทางเทคนิคยังมองเหมือนเดิม ไม่ผ่าน 1,800 ให้ระวังร่วงหนัก เพราะเป็นระดับตัดสินให้วิ่งกัน +-100 เหรียญ คือ ถ้าไม่ไปถึง 1,900 ก็ต้องกลับมาตั้งหลักกันใหม่ที่ 1,700

เอาเป็นว่า 1,790-1,810 แนวนี้ยังหนาเหมือนเดิม และถ้าอยากขึ้นต่อก็ไม่ควรหลุด 1,750 ที่เป็น neckline ของ double top เส้นรับสำรองให้ที่ 1,735 สรุปแนวรับ 1,765/1,750/1,735 ถ้าหลุดแนวไหนก็ cut loss ออกไปก่อน เพื่อเล่นแบบ short against port สรุปแนวต้าน เมฆบอก 1,781 ผมบอก 1,800+-

ปล. ช่วงนี้อย่าโลภ เล่นสั้น อัดขึ้น-อัดลง กันไปก่อน แต่ถ้าหลุดเส้นก็คัตไป แล้วไปรอเข้าที่เส้นใหม่ เพราะยังมองว่าเดือนนี้มีวิ่งแรง





night Guide 8.10.55


ทิศทางราคาทองทรงตัวเหนือแนว 1765 ได้ทั้งวัน แต่ไม่อาจยืนเหนือ 1770 ได้ดูไม่ดีเท่าไหร่
แนวต้าน 1773 1777 1781 
แนวหนุน 1766 1758 
ถ้าหลุด 1766 ผมว่าปิดถอยตั้งหลักดีกว่าครับ


วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

morning guide 8.10.55


ทิศทางราคาทองปรับตัวหลุดแนวหนุนที่จะทำหน้าที่หนุนขึ้นไปทดสอบ 1795 1800 1820 จากอัตราการว่างงานที่ดีขึ้นกว่าที่ใครๆ จะคาดหมายได้
ช่วงนี้การเมืองสหรัฐเริ่มเข้มข้นขึ้นตามลำดับครับ และกว่าจะจบก็เดือนพฤศจิกายนนู่น
ตัวเลขเป็นอย่างไรไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ส่ิ่งที่ตลาดทำหลังประกาศตัวเลขต่างหาก ครั้งก่อนๆ ตัวเลขก็ไม่ได้ดีอะไรนัก แต่ทองก็ดีดเอาๆ
ราคาทองจะหลุดเทรนด์ระยะยาวที่ 1772 ถ้าเช้านี้ยืนหรือกลับมายืนที่ 1772 - 1775 ไม่ได้ก็จะต้องหาแนวหนุนมาใช้กันครับสำหรับสัปดาห์นี้
แนวหนุนสำหรับวันนี้คือ 1760 1767 1774 
แนวต้านคือ 1780 1785 
ผมว่าวันนี้มีลุ้นเด้งได้จากจุดแถว 1767 - 1770 เป้า 1778 1780ครับ เล่นสั้นปิดภายในวันนะครับ




ตลาดหุ้นไทยมีแนวย่่อยที่ 892 หลุดแนวนี้ต้องไปลุ้นแนวหลักที่ 880 -885 หลุด 880 ก็ลงยาวครับหลังจากที่ขึ้นมาจาก 850 
มองย่อตัวมาลุ้นที่ 885 ในวันนี้ครับ